ตำนานยักวัดโพธิ์
...........ทั้งหมดก็พบว่ามียักษ์อยู่ ๔ ตน คือ ๑. พญาสัทธาสูร (มีกายสีหงเสน)...๒. พญาขร (มีกายสีเขียว)...๓. พญาไมยราพ (มีกายสีม่วงอ่อน)...๔ พญาแสงอาทิตย์ (มีกายสีแดง) ทั้งหม้อยู่ในตู้กระจกขนาบข้างประตู ๒ ประตู ด้านหน้าหอไตรจตุรมุข
ข้อมูลบางแห่งบอกว่ามียักษ์ตนเดียว กายสีแดง ไม่บอกชื่อ .....บางแห่งก็ว่ามีอยู่ ๒ ตน คือมีกายสีแดง กับกายสีเขียว ไม่บอกชื่อเช่นกัน.....งงงงครับ ว่าจริงๆ แล้วมียักษ์อยู่กี่ตนแน่ และยังมีข้อสงสัยอีกมากมาย เป็นต้นว่า ยักษ์วัดโพธิ์ กับยักษ์วัดแจ้งนี้ ตามตำนานแล้วมีฝ่ายละกี่ตนกันแน่ ( ถ้ายักวัดแจ้งมีตนเดียว แล้วยักษ์วัดโพธิ์มี ๔ ตนคงจะเสียเปรียบแย่
ในส่วนของยักษ์ประจำวัดโพธิ์ หลายคนคงเคยได้ยิน ตำนานกำเนิดท่าเตียนอันเป็นพื้นที่โล่งเตียนนั้น ผลมาจาการการต่อสู้ ระหว่างยักษ์วัดแจ้ง กับ ยักษ์วัดโพธิ์ โดยมีกรรมจากวัดพระแก้วมาเป็นผู้ห้ามทัพ?
ตำนานกำเนิดท่าเตียนมีอยู่ว่า
ยักษ์วัดโพธิ์ทำหน้าที่ดูแลวัดโพธิ์ และยักษ์วัดแจ้งดูแลวัดแจ้ง (วัดอรุณฯ) ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันนั้น .....วันหนึ่งยักษ์วัดโพธิ์เงินขาดมือ จึงว่ายน้ำข้ามฟากไปหายักษ์วัดแจ้งที่ยืนทำหน้าที่อยู่ที่วัด แล้วยักษ์วัดโพธิ์ก็กระหืดกระหอบขึ้นจากฝั่งตรงไปหายักษ์วัดแจ้งบอกขอให้ตนยืมตังส์หน่อย
ยักษ์วัดแจ้งเห็นเพื่อนว่ายน้ำข้ามมาด้วยความลำบากก็ยอมให้ยืมตังส์ไม่ขัดข้องพร้อมกระนั้นมิวายที่จะทวงตังส์จากยักวัดโพธิ์เพื่อให้นำมาจ่ายในวันถัดไป .....ครั้นถึงเวลานัดที่จะจ่ายตังส์ ยักษ์วัดโพธิ์กับลืม ยักษ์วัดแจ้งก็ว่ายน้ำข้ามไปทวงตังส์ ยักษ์วัดโพธิ์ก็ยังไม่มีให้ บอกยักษ์วัดแจ้งให้กลับไปก่อนถ้ามีแล้วจะนำไปให้เอง
..........ยักษ์วัดแจ้งก็เฝ้าแต่รอ แล้ว รอเล่า ยักษ์วัดโพธิ์ก็ไม่ยอมเอาตังส์มาคืนให้ เมื่อรอจนทนไม่ไหวจึงว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาทวงเงิน แต่ยักษ์วัดโพธิ์ไม่ยอมให้ และแล้วในที่สุดความอดทนของยักษ์วัดแจ้งเหลือน้อยเต็มที จึงเกิดการทะเลาะวิวาท ไล่ตีกัน ณ ที่บริเวณแห่งนั้นราบเรียบกลายเป็นสถานที่โล่งเตียนไปหมด ไม่มีอะไรเหลือแม้แต่ต้นไม้ใหญ่ยังล้มไม่อาจยืนตระหง่านได้
ครั้น เมื่อพระอิศวรได้ทราบเรื่องราวการต่อสู้ของยักษ์ทั้ง ๒ ตน ที่ต่อสู้กันเป็นเหตุให้บรรดามนุษย์ และสัตว์น้อยใหญ่ต้องได้รับความเดือดร้อน .....พระอิศวรจึงได้ลงโทษโดยการสาปให้ยักษ์ ๒ ตนนั้น กลายเป็นหิน โดยที่หินยักษ์วัดโพธิ์ให้ยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าพระอุโบสถ และให้หินญักษ์วัดแจ้งยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าพระวิหารวัดแจ้งเรื่อยมา
ส่วนฤทธิ์จากการสู้รบของยักษ์ทั้งคู่ได้ทำให้ชุมชนละเวกนี้ราบเรียบเป็นหน้ากอง และชาวบ้านในแถบนี้ต่างพากันเรียกว่า " ท่าเตียน " ...เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
0 ความคิดเห็น