
ลักษณะ:
พระเนื้อดิน เป็นพระพิมพ์ขนาดเล็ก ชื่อพระรอดนั้นมีข้อสันนิษฐาน 3
ทางได้แก่
1.
ออกเสียงตามผู้ที่สร้างขึ้น คือ พระฤาษีนารอด ซึ่งออกเสียงตามภาษามอญ
2. ผู้ที่สักการะบูชา
และนำติดตัวไปยังที่ต่าง ๆ สามารถรอดพ้นจากอันตรายเป็นอย่างดี
จึงเรียกว่าพระรอด
3.
เนื่องจากเป็นพระเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าพิมพ์อื่นๆ จึงได้ชื่อว่าพระลอด
และเพี้ยนมาเป็นพระรอด
ลักษณะทั่วไปของพระรอด
เป็นพระปางมารวิชัย มีฐานอยู่ใต้ที่นั่ง และมีผ้านิสีทนะ (ผ้านั่งปู)
รองรับปูไว้บนฐานข้างหลังองค์พระมีลวดลายกระจัง ชาวพื้นเมืองเหนือเรียกกันว่า
ใบโพธิ์ เพราะกระจังนั้นดูคล้ายๆใบโพธิ์มีกิ่งก้านไม่อยู่ในเรือนแก้ว
พระพักตร์จะปรากฏพระเนตร (ตา) พระกรรณ (หู) ยาวลงมาเกือบจรดพระอังสะ (บ่าหรือไหล่)
ทั้งสองข้าง ส่วนด้านหล้งนั้นไม่มีลวดลายอะไรนอกจากรอยนิ้วมือ เป็นเนื้อดินทั้งหมด
บางองค์มีลักษณะนูนบ้างแบนบ้าง
สามารถแบ่งได้ 5 พิมพ์
1.
พิมพ์ใหญ่
2.
พิมพ์กลาง
3.
พิมพ์เล็ก
4.
พิมพ์ต้อ
5.
พิมพ์ตื้น
ดังตัวอย่าง
พุทธคุณ: ยอดเยี่ยมในทางแคล้วคลาด เมตตามหานิยม
พระรอด
เป็นพระเครื่องเนื้อดินเผาองค์เล็กที่มีพุทธลักษณะงดงาม จึงได้รับความนิยม
และจัดอยู่ในชุดเบญจภาคีพระเครื่อง ซึ่งประกอบด้วย
พระสมเด็จ (พุทธจารย์โต พรหมรังษี)
|
|
พระรอด
(ลำพูน)
|
|
พระซุ้มกอ
(กำแพงเพชร)
|
|
พระนางพญา
(พิษณุโลก)
|
|
พระผงสุพรรณ (สุพรรณบุรี)
|
ซึ่งในบรรดาพระเครื่องในชุดเบญจภาคี
พระรอด ถือว่าเป็นพระที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด คือ ประมาณ ๑,๓๐๐
กว่าปีพระรอดสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระนางจามเทวี และบรรจุไว้ ณ วัดมหาวัน
วัดมหาวัน
จ.ลำพูน
วัดมหาวัน อำเภอเมือง
เป็นวัดสำคัญเก่าแก่ ที่สร้างมาตั้งแต่ครั้งพระนางจามเทวีขึ้นครองนครหริภุญไชย
เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๑๒๐๐ เศษ และได้อัญเชิญ พระพุทธรูปนาคปรก หรือ พระดิลกดำ
จากเมืองละโว้ มาไว้ที่วัดนี้ ชาวเมืองเรียกกันว่า พระรอดหลวง หรือ พระรอดลำพูน
ซึ่งต่อมาได้เป็น แบบพิมพ์จำลอง พระเครื่อง ที่ลือชื่อกรุหนึ่ง ชื่อ
พระรอดมหาวัน
ซึ่งพระอารามนี้ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองทางด้านทิศตะวันตกห่างจากประตู
มหาวัน อันเป็นประตูเมืองด้านทิศตะวันตก ประมาณ ๕๐ เมตร
หน้าพระอารามหันไปทางทิศตะวันออก ตรงกันข้ามกับคูเมือง
ที่ตั้งวัดนี้เดิมเป็นมหาวนาราม พระอารามหลวง ซึ่งพระนางจามเทวีโปรดให้สร้างขึ้น
เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. ๑๒๐๐ เศษ
ในสมัยเจ้าหลวงเหมพินธุไพจิตร ได้มีการปฏิสังขรณ ์องค์เจดีย์ในวัดมหาวันขึ้นมาใหม่
ประมาณ พ.ศ. ๒๔๓๑ - ๒๔๓๘ ซึ่งแต่เดิมองค์เจดีย์ยอดปรักหักพังลงไป
พระรอดซึ่งถูกบรรจุไว้ได้กระจัดกระจายไปพร้อมกับยอดเจดีย์ซึ่งหักพังลงไปทางทิศตะวันตก
เพราะได้มีผู้ขุดพบยอดพระเจดีย์ซึ่งเป็นศิลาแลงทางทิศนั้น อนึ่งปรากฏว่า
มีผู้ค้นพบพระรอดได้เป็นจำนวนมากมายทางทิศนี้ด้วย ซึ่งมีมากกว่าทิศอื่นๆ
จนกระทั่งสถานที่ขุดได้กลายเป็นบ่อน้ำ (บ่อน้ำปัจจุบัน)
ในการปฏิสังขรณ์องค์พระเจดีย์ในครั้งนี้ได้พบพระรอดจำนวนมากในซากกรุเจดีย์วัดมหาวัน
พระรอดส่วนหนึ่ง ได้รับการบรรจุเข้าไปไว้ในพระเจดีย์ใหม่
และบางส่วนได้มีผู้นำไปสักการบูชา แต่ยังมีอีกบางส่วนที่ปะปนกับเศษซากกรุเก่า
กระจายไปทั่วบริเวณวัด
ในสมัยเจ้าหลวงอินทยงยศ
ทรงได้พิจารณาเห็นว่ามีต้นโพธิ์
แทรกตรงบริเวณฐานเจดีย์มหาวันและมีรากลึกลงไปภายในองค์พระเจดีย์ทำให้มีรอยร้าวชำรุดหลายแห่ง
จึงได้ทำการฏิสังขรณ์ฐานรอบนอกองค์พระเจดีย์ใหม่ประมาณ ปี พ.ศ. ๒๔๕๑ ในการนี้
ได้พบพระรอดจำนวนมาก ประมาณหนึ่งกระเช้าบาตร (ตระกร้าบรรจุกับข้าวตักบาตร)
และได้นำมาแจกจ่ายบรรดาญาติซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจนทุกวันนี้
ในสมัยต่อๆ
มามีการขุดพบพระรอดอยู่เสมอ แต่มีจำนวนไม่มากนักข้อสังเกตในการขุดพบพระรอด ในปี
พ.ศ. ๒๔๙๘ ซึ่งพบมากถึงประมาณ ๒๐๐ องค์
บริเวณที่พบพระรอดมักจะมีอิฐโบราณสลับซับซ้อนอยู่โดยรอบพระรอด
และพระรอดจะฝังอยู่ในดินหรดาลซึ่งเป็นดินเนื้อละเอียดที่สุด มีสีเหลือง
และมีกลิ่นหอมนวลๆ ซึ่งในการสร้างพระรอดสมัยต่อมา ได้นำดินหรดาล ผสมกับเศษพระรอด
และพระอื่นๆสร้างป็นพระรอดขึ้นมา เช่น พระรอดครูบากองแก้ว
ตำนานการสร้างพระรอด
กล่าวถึงสุกกทันต์ฤษี และวาสุเทพฤษี ประชุมฤษี ๑๐๘ รูป
มาชุมนุมสร้างโดยเอาดินบริสุทธิ์จากใจกลางทวีปทั้ง ๕ ตัวยา ๑,๐๐๐ ชนิด เกสรดอกไม้
๑,๐๐๐ ชนิด และว่าน ๑,๐๐๐ ชนิด มาผสมกันจนละเอียดกดลงในพิมพ์นำไปเผา เสร็จแล้ว
สุกกทันตฤษี วาสุเทพฤษี
ได้ทำพิธีปลุกเสกด้วยเวทมนต์อันศักดิ์สิทธิ์และเนื่องจากการสร้างพระรอดจากวัสดุต่างๆ
นำมาผสมกัน ดังกล่าวแล้วจึงปรากฏว่าองค์พระ
ที่สร้างมีสีหลายสีเนื่องจากส่วนผสมและการเผา จึงได้พบสีต่างๆ ได้แก่ สีเขียว
สีเขียวอ่อน สีขาวปนเหลือง สีดำ สีแดงสีดอกพิกุล เป็นต้น นอกจากนี้
ยังมีแม่พระรอดซึ่งเป็นพระที่สร้างขึ้นด้วยหินศิลาดำอ่อนๆ หน้าตักกว้าง ๑๗ นิ้ว
สูง ๓๖ นิ้ว นั่งขัดสมาธิเพชรปัจจุบัน
ประดิษฐานไว้ด้านหน้าพระประธานในวิหารวัดมหาวัน โดยชื่อเรียกว่า
พระพุทธสักขีปฏิมากรณ์ สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปที่พระนางจามเทวีนำขึ้นมาจากเมืองละโว้ (ลพบุรี) ถือว่า
พระพุทธสักขีปฏิมากรณ์องค์นี้ เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองหริภุญไชย
ลำพูนมาตราบเท่าทุกวันนี้
พระอานุภาพของพระรอด
มีความเชื่อกันว่า พระรอด มีความศักดิ์สิทธิ์หรือความขลังในด้านแคล้วคลาด
ปราศจากภัยอันตราย และความวิบัติต่างๆ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม ได้ลาภผล
และคงกระพันชาตรี
0 ความคิดเห็น